CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเวอเรจ 76% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการนี้ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD และคุณสามารถรับความเสี่ยงสูงจากการสูญเสียเงินได้หรือไม่

ทำความรู้จักกับความเสี่ยงและผลตอบแทนของการลงทุน
ความเสี่ยงและผลตอบแทนของการลงทุน
การลงทุนคือหนึ่งในเส้นทางสร้างความมั่นคงทางการเงินที่ทรงพลังที่สุด แต่ก็ไม่หมายความว่าการลงทุนจะประสบผลสำเร็จเสมอ เพราะในโลกของการลงทุน ผลตอบแทนและความเสี่ยงมักมาคู่กัน การทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงของการลงทุน และประเมินว่าคุณสามารถรับมือได้มากน้อยแค่ไหน จะช่วยให้คุณวางแผนได้มั่นใจ และลดโอกาสในการตัดสินใจผิดพลาด
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจตั้งแต่แนวคิดเบื้องต้นของความเสี่ยงและผลตอบแทน ไปจนถึงกลยุทธ์บริหารพอร์ตที่ใช้ได้จริง เพื่อให้การลงทุนของคุณเติบโตอย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น
ความเสี่ยงและผลตอบแทนคืออะไร?
- ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง โอกาสที่จะสูญเสียเงินทุนบางส่วนหรือทั้งหมดที่นำไปลงทุน การลงทุนแต่ละประเภทมีความเสี่ยงแตกต่างกัน โดยทั่วไป ความเสี่ยงที่สูงมักสัมพันธ์กับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
- ผลตอบแทน (Reward) หมายถึง ผลกำไรที่คุณอาจได้รับจากการลงทุน โดยทั่วไป ผลตอบแทนที่สูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน
Tip: ยิ่งคาดหวังผลตอบแทนสูงมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องยอมรับระดับความเสี่ยงที่มากขึ้นตามไปด้วย |
ประเภทของความเสี่ยง
1. ความเสี่ยงตลาด
ความเสี่ยงตลาด คือ ความเสี่ยงที่มูลค่าการลงทุนจะลดลง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดอกเบี้ยขาขึ้น หรือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
2. ความเสี่ยงด้านเครดิต
ความเสี่ยงด้านเครดิต คือ ความเสี่ยงที่บริษัทหรือหน่วยงานภาครัฐที่ออกพันธบัตร ไม่สามารถชำระหนี้ตามสัญญาได้ ส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับเงินต้นคืนตามกำหนด
3. ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย
ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย คือ ความเสี่ยงที่การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลต่อมูลค่าของการลงทุนประเภทที่ให้ผลตอบแทนคงที่ เช่น พันธบัตร โดยทั่วไป เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น มูลค่าของพันธบัตรที่มีอยู่เดิมจะลดลง
4. ความเสี่ยงสภาพคล่อง
ความเสี่ยงสภาพคล่อง คือ ความเสี่ยงที่ไม่สามารถขายการลงทุนของคุณได้ในราคาที่เหมาะสม และไม่สามารถนำเงินออกมาใช้ได้เมื่อต้องการ ตัวอย่างเช่น การลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ค่อยมีผู้ซื้อขาย
การบริหารความเสี่ยง
การบริหารสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นพื้นฐานสำคัญของการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ กลยุทธ์ต่างๆ ในการบริหารความเสี่ยง มีดังนี้
-
การกระจายความเสี่ยง : กระจายการลงทุนของคุณไปยังตราสารทางการเงิน สาขาอุตสาหกรรม และภูมิภาคที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุน
-
การจัดสรรปันทรัพย์ : เลือกสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (หุ้น พันธบัตร เงินสด) โดยพิจารณาจากความสามารถในการรับความเสี่ยง ระยะเวลาการลงทุน และเป้าหมายทางการเงินของคุณ
-
การตรวจสอบเป็นประจำ : ตรวจสอบพอร์ตการลงทุนของคุณเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่ายังคงสอดคล้องกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ และปรับสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสม
ผลตอบแทนของการลงทุน
- กำไรจากเงินทุน: กำไรที่ได้จากการขายสินทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา
- เงินปันผล: เงินที่บริษัทจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นประจำจากกำไรของบริษัท
- ดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนในพันธบัตรหรือบัญชีเงินออมทรัพย์
- ผลตอบแทนรวม: ผลตอบแทนทั้งหมดที่ได้รับจากการลงทุน รวมทั้งกำไรจากเงินทุนและรายได้ (เงินปันผลหรือดอกเบี้ย)
ผลตอบแทน คือหัวใจสำคัญของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นกำไรจากการขายสินทรัพย์ในราคาที่สูงขึ้น การสะสมเงินปันผล หรือดอกเบี้ยที่เติบโตจากการถือครองสินทรัพย์ ที่ IUX เราออกแบบมาเพื่อเทรดเดอร์ทุกระดับ
ทุกการตัดสินใจของคุณจะได้รับการสนับสนุนด้วยข้อมูลที่แม่นยำและเครื่องมือที่ตอบสนองต่อกลยุทธ์การเทรดของคุณ เปิดบัญชีกับ IUX วันนี้ เพื่อเปิดประสบการณ์ในโลกแห่งการลงทุนของคุณไปกับเรา!
ความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทน
ความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทนเป็นการเปรียบเทียบระหว่างความเสี่ยงที่ยอมรับได้กับผลตอบแทนที่ต้องการ โดยทั่วไปแล้วการลงทุนที่มีความคาดหวังผลตอบแทนสูง มักมีความเสี่ยงสูง ในทางกลับกัน การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ มักให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า
ตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงกับผลตอบแทน
- หุ้น: มีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความผันผวนและความเสี่ยงสูงกว่า
- พันธบัตร: มีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหุ้น แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า
- กองทุนรวมและกองทุน ETF: ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่กองทุนที่ลงทุน อาจจะมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ผสมผสานกัน
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์และใบรับรองเงินฝาก (CDs): มีความเสี่ยงต่ำมาก แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่ต่ำมากเช่นกัน
กลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงและผลตอบแทน
- การกระจายการลงทุน: การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (หุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ) เพื่อลดความเสี่ยง
-
การจัดสัดส่วนสินทรัพย์: การแบ่งสัดส่วนของเงินลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงและเป้าหมายการลงทุน
-
การทบทวนและปรับพอร์ตการลงทุนเป็นประจำ: ควรทบทวนพอร์ตการลงทุนเป็นประจำ เพื่อปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ต้องการ
-
การวิจัยและการวิเคราะห์: การศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์การลงทุนก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เข้าใจความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง
-
เครื่องมือประเมินความเสี่ยง: การใช้เครื่องมือและเกณฑ์ต่างๆ เช่น อัตราส่วน, Beta, Standard Deviation เพื่อประเมินและเปรียบเทียบความเสี่ยงของการลงทุนต่างๆ
Tip: อย่าลงทุนตามกระแสของตลาดหรือโซเชียลโดยไม่เข้าใจความเสี่ยงของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ |
บทสรุป
การลงทุนเป็นเครื่องมือทรงพลังในการสร้างความมั่งคั่งและบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณอย่างรอบคอบ และกระจายการลงทุนของคุณ คุณสามารถตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด และเดินหน้าบนเส้นทางการลงทุนด้วยความมั่นใจมากขึ้น จำไว้ว่า หัวใจสำคัญคือการหาจุดสมดุลระหว่างความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ กับผลตอบแทนที่คาดหวัง ซึ่งจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้สำเร็จ
💡คำถามที่พบบ่อย
Q: ลงทุนแบบไหนให้ผลตอบแทนสูงแต่เสี่ยงน้อย?
A: โดยทั่วไป ผลตอบแทนสูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงสูง แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการกระจายการลงทุน เช่น ลงทุนในกองทุนผสม (Balanced Fund) หรือ ETF ที่มีสินทรัพย์หลากหลาย และใช้กลยุทธ์แบบรายเดือน (DCA) เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนในระยะสั้น
Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน?
A: คุณสามารถประเมินได้ผ่านแบบทดสอบ Risk Profile ซึ่งวิเคราะห์จากอายุ รายได้ เป้าหมายการเงิน และความสามารถในการรับมือกับการขาดทุน เพื่อช่วยแนะนำสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณ
Q: ผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสมควรอยู่ที่เท่าไร?
A: ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและระยะเวลาการลงทุน หากเป็นเป้าหมายระยะยาว เช่น เกษียณ อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 6–8% ต่อปีถือว่าเหมาะสม แต่หากเน้นความปลอดภัยหรือสภาพคล่อง อัตรา 2–4% ต่อปีอาจเหมาะสมกว่า
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน