CFD เป็นตราสารที่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเวอเรจ 76% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการนี้ คุณควรพิจารณาว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD และคุณสามารถรับความเสี่ยงสูงจากการสูญเสียเงินได้หรือไม่

ประเภทของคู่เงินใน Forex มีอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันอย่างไร
ประเภทของคู่เงินใน Forex มีอะไรบ้าง มีความแตกต่างกันอย่างไร
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือที่เรียกกันว่า forex (foreign exchange) เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่มีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงที่สุดในโลก โดยมีนักลงทุนและสถาบันการเงินเข้ามาทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงินผ่านการซื้อขายเป็นคู่สกุลเงิน (currency pairs)
คู่สกุลเงินในตลาด forex สามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ คู่สกุลเงินหลัก (major pairs), คู่สกุลเงินรอง (minor pairs) และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ (exotic pairs) แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่ส่งผลต่อสภาพคล่อง ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (spread) และระดับความผันผวน เทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้เพื่อเลือกคู่เงินที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การลงทุนของตนเอง
คู่เงินหลัก (major pairs)
คู่เงินหลักคือคู่เงินที่มีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดในตลาด forex โดยมีดอลลาร์สหรัฐ (usd) เป็นหนึ่งในสกุลเงินของคู่เงินเสมอ ดอลลาร์สหรัฐถือเป็นสกุลเงินหลักของโลกและเป็นที่ต้องการสูง ทำให้คู่เงินที่เกี่ยวข้องกับ usd มีสภาพคล่องสูงและค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำกว่าคู่เงินประเภทอื่น
ตัวอย่างของคู่เงินหลัก
ได้แก่ eur/usd, usd/jpy, gbp/usd, usd/chf, aud/usd, usd/cad และ nzd/usd
เนื่องจากเป็นคู่เงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด พฤติกรรมราคามักได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น นโยบายการเงินของธนาคารกลาง อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และตัวเลขการจ้างงานของประเทศที่เกี่ยวข้อง คู่เงินหลักเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ เนื่องจากมีต้นทุนการซื้อขายต่ำและความเสี่ยงที่สามารถบริหารจัดการได้ง่าย
คู่เงินรอง (minor pairs)
คู่เงินรอง หรือที่เรียกกันว่า cross pairs คือคู่เงินที่ไม่มีดอลลาร์สหรัฐ (usd) เป็นส่วนประกอบ แต่จะเป็นการจับคู่ระหว่างสกุลเงินหลักอื่น ๆ เช่น ยูโร (eur), ปอนด์อังกฤษ (gbp), เยนญี่ปุ่น (jpy), ดอลลาร์ออสเตรเลีย (aud) และฟรังก์สวิส (chf)
ตัวอย่างของคู่เงินรอง
ได้แก่ eur/gbp, eur/jpy, gbp/jpy, aud/jpy และ eur/aud
ความแตกต่างของคู่เงินรองเมื่อเทียบกับคู่เงินหลักคือ สภาพคล่องที่ต่ำกว่า และค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของคู่เงินรองมักจะสูงกว่า เนื่องจากไม่ได้รับอิทธิพลจาก usd โดยตรง แต่มักเคลื่อนไหวตามปัจจัยเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือเหตุการณ์สำคัญในตลาดการเงิน
คู่เงินแปลกใหม่ (exotic pairs)
คู่เงินแปลกใหม่คือคู่เงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินหลักจับคู่กับสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ (emerging markets) หรือประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่า คู่เงินประเภทนี้มักมีปริมาณการซื้อขายน้อย ทำให้มีสภาพคล่องต่ำและค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงกว่าคู่เงินหลักและคู่เงินรอง
ตัวอย่างของคู่สกุลเงินแปลกใหม่ ได้แก่ usd/thb, usd/try, eur/sgd, gbp/zar และ usd/mxn
การซื้อขายคู่เงินแปลกใหม่มักมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง อัตราเงินเฟ้อที่ผันผวน การควบคุมค่าเงินของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แม้ว่าคู่เงินแปลกใหม่อาจมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็ต้องระมัดระวังความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การเลือกคู่เงินที่เหมาะสมกับเทรดเดอร์
เทรดเดอร์มือใหม่มักเริ่มต้นด้วยคู่เงินหลัก เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง ค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ และราคามีแนวโน้มเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐานที่ชัดเจน สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความผันผวนเพิ่มขึ้นและมองหาโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น อาจเลือกคู่สกุลเงินรองที่มีการเคลื่อนไหวของราคาแรงกว่า
ส่วนเทรดเดอร์ที่ต้องการผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจเลือกคู่เงินแปลกใหม่ อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และติดตามเหตุการณ์เศรษฐกิจที่อาจสร้างความผันผวนให้กับตลาด
การเลือกคู่เงินที่เหมาะสมกับกลยุทธ์การลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากตลาด forex การศึกษาแนวโน้มของคู่สกุลเงิน การติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ และการบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย จะช่วยให้การซื้อขาย forex มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในโลกของฟอเร็กซ์ การเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสมและเงื่อนไขการเทรดที่เอื้อต่อการทำกำไร เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ ที่ IUX เราให้คุณเข้าถึงคู่สกุลเงินหลากหลายประเภท พร้อมบัญชีที่ออกแบบให้ตรงกับกลยุทธ์ และระบบการเทรดที่เสถียรและแม่นยำ เพื่อให้คุณซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเน้น คู่สกุลเงินหลักที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ คู่สกุลเงินรองที่มีความเคลื่อนไหวสูง หรือคู่สกุลเงินแปลกใหม่ที่มอบโอกาสทำกำไรที่มากขึ้น IUX ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจ ด้วยเครื่องมือและระบบที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพการลงทุนของคุณ อย่าปล่อยให้ข้อจำกัดมาขวางทางความสำเร็จของคุณ สมัครใช้งาน IUX วันนี้และยกระดับการเทรดของคุณไปอีกขั้น
สรุป
การซื้อขายในตลาด forex อาศัยการแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงิน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ คู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่ส่งผลต่อสภาพคล่อง ค่าธรรมเนียม และความผันผวนของราคา
คู่สกุลเงินหลักเป็นคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุด โดยมีดอลลาร์สหรัฐเป็นหนึ่งในสกุลเงินเสมอ ทำให้มีสภาพคล่องสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ คู่สกุลเงินรองไม่มีดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงมีการซื้อขายที่ค่อนข้างสูง มักมีความผันผวนมากกว่าคู่เงินหลัก คู่สกุลเงินแปลกใหม่คือการจับคู่สกุลเงินหลักกับสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่า เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายน้อยและราคาผันผวนมาก
นักลงทุนควรเลือกคู่เงินที่เหมาะสมกับกลยุทธ์ของตนเอง โดยพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สภาพคล่องของตลาด และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรด forex อย่างยั่งยืน
Tip: เริ่มต้นเทรดด้วยคู่เงินหลัก (Major Pairs) ก่อน เพราะมีสภาพคล่องสูง ค่าธรรมเนียมต่ำ และข้อมูลวิเคราะห์ในตลาดมาก เหมาะสำหรับฝึกทักษะและจัดการความเสี่ยง |
💡 คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: คู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินแปลกใหม่ ต่างกันอย่างไร?
A: คู่เงินหลัก (Major Pairs) มี USD อยู่เสมอ เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY สภาพคล่องสูงและค่าธรรมเนียมต่ำ คู่เงินรอง (Minor Pairs) ไม่มี USD แต่เป็นการจับคู่ระหว่างสกุลเงินหลัก เช่น EUR/GBP หรือ GBP/JPY มีความผันผวนสูงกว่า ส่วนคู่เงินแปลกใหม่ (Exotic Pairs) เช่น USD/THB หรือ EUR/SGD คือการจับคู่สกุลเงินหลักกับสกุลเงินจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ สภาพคล่องต่ำและเสี่ยงสูงกว่า
Q: มือใหม่ควรเริ่มต้นเทรดคู่เงินประเภทใด?
A: มือใหม่ควรเริ่มจากคู่เงินหลัก เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง ราคาขึ้นลงตามปัจจัยพื้นฐานที่ค่อนข้างชัดเจน และมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ เหมาะสำหรับการฝึกวิเคราะห์แนวโน้มและการจัดการความเสี่ยง
Q: การเทรดคู่เงินแปลกใหม่มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
A: คู่เงินแปลกใหม่มักมีค่าธรรมเนียมสูง สภาพคล่องต่ำ และผันผวนแรง ราคาขึ้นลงอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในประเทศ เช่น การเมือง เงินเฟ้อ หรือการควบคุมค่าเงิน จึงเหมาะกับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และสามารถบริหารความเสี่ยงได้ดี
หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน